เกษตรกรไทยส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย ในขณะที่เกษตรกรมีที่ดินมากกว่า 20 ไร่นั้น คิดเป็นเพียงร้อยละ 20 จึงทำให้มีเพียงร้อยละ 42 ของเกษตรกรทั่วประเทศเท่านั้น ที่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำ รวมถึงความรุนแรงของภัยพิบัติในแต่ละปีไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งหรือน้ำท่วม ที่สร้างผลกระทบทางเป็นวงกว้างทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมรวม และผลผลิต 

  จะเห็นได้ว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการทำการเกษตร คือ น้ำ จึงทำให้ภัยภัยแล้ง เป็นสิ่งที่ความรุนแรงของ และสร้างความเสียหายต่อภาคการเกษตรในไทยราวกว่า 1.791 ถึง 8.38 หมื่นล้านบาทต่อปี ทั้งยังสร้างผลกระทบโดยตรงกับการเกษตรและแหล่งน้ำ เช่น พื้นดินขาดความชุ่มชื้น พืชขาดน้ำ พืชถูกชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ รวมถึงปริมาณลดลง

  โดยภัยแล้งที่เกิดมีผลต่อการเกษตร มักเกิดในช่วงที่มีฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ หันมาใช้ Solar pump Inverter หรือ อินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ เพื่อประหยัดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเกษตร 

  Solar pump Inverter เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับเกษตรกรอย่างมาก เพราะตัวเครื่องใช้ลังงานจากโซล่าเซลล์ ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้จะอยู่ในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า ทั้งยังเหมาะกับประเทศไทย เพราะตัวอินเวอร์เตอร์โซลล่าเซลล์ทำงานได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงแดดจ้า ทั้งยังสามารถทำงานกลางแจ้ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งสำหรับเกษตรกร ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มมูลค่าผลผลิต

  เกษตรกรที่ต้องการหาเทคโนโลยีที่ใช้เป็นไฟฟ้าสำรอง ใช้ทดแทนในกรณีแหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสสลับหลัก หรือใช้ช่วงภัยแล้ง ขอแนะนำ Solar pump Inverter หรือ อินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ โดยบริษัท เทอรา กรุ้ป จำกัด พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำการดูแลรักษา และติดตั้งระบบปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ รับประกันอุปกรณ์ สนใจติดต่อสอบถาม โทร 02-328-0801 หรือ Line : @teragroup